RTEC ร่วมบรรยายในงานสัมมนา อนาคตผลิตภัณฑ์ยางไทย "โอกาสวิ่งหรือโอกาสนิ่ง?"
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ณ โรงแรมอโนมา แกรนด์
ราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร ดร.กฤษฎา สุชีวะ ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยเทคโนโลยียาง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง "Rubber Technology Outlook ส่องเส้นทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางไทย" ในงานสัมมนา อนาคตผลิตภัณฑ์ยางไทย "โอกาสวิ่งหรือโอกาสนิ่ง?"
งานสัมมนานี้จัดโดยสถาบันพลาสติกภายใต้โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพาราของกระทรวงอุตสาหกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและมุมมองที่เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในงานสัมมนาดังกล่าวมีการบรรยาย 3 หัวข้อ ได้แก่
1. “Rubber Technology Outlook ส่องเส้นทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางไทย” บรรยายโดย ดร.กฤษฎา
สุชีวะ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยียาง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
2. “เปิดแผนพัฒนาระบบรางไทย ตลาดใหม่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางพารา” บรรยายโดย นายศุภฤกษ์
สุดยอดประเสริฐ กรมการขนส่งทางราง
3. “Market Watch อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางไทย” บรรยายโดย นางสาวอัจฉรียา บุญฉวี สถาบันพลาสติก
สำหรับหัวข้อ “Rubber Technology Outlook ส่องเส้นทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางไทย”
บรรยายโดย ดร.กฤษฎา สุชีวะ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยียาง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีเนื้อหาการบรรยายสรุปได้ดังนี้ ประเทศไทยใช้ยางในการผลิตผลิตภัณฑ์มากเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยมีปริมาณการใช้ยางอยู่ที่ 1,053,000 ตัน (อันดับ 1 คือ จีน) การใช้ยางในการผลิตผลิตภัณฑ์ของไทยในปี พ.ศ. 2560 ปริมาณ 653,000 ตัน แบ่งเป็นการใช้ยางสำหรับผลิตยางล้อมากที่สุด (63.19%) เส้นด้ายยางยืด (17.07%) ถุงมือยาง (8.47%) ตามลำดับ ดังนั้นหากต้องการจะเพิ่มปริมาณการใช้ยางธรรมชาติในประเทศจะต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมเป็นหลัก แต่ก็ควรสนใจการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วย ตัวอย่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีดังนี้
การพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมจำเป็นต้องทำเพื่อขยายตลาดโดยงานวิจัยและนวัตกรรมที่ต้องดำเนินการก็เพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพและลดต้นทุนการผลิตเทคโนโลยีที่ใช้จะยังคงเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ยางแต่เพิ่มนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านยาง/สารเคมียาง เช่น การใช้ยาง S-SBR หรือ FS-SBR หรือสารเคมียางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ สารเคมีจากธรรมชาติเช่นน้ำมันจากเปลือกส้ม สารรักษาสภาพน้ำยางธรรมชาติไร้แอมโมเนียเป็นต้น หรือนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการผลิตเช่นเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ นวัตกรรมเทคโนโลยีการออกแบบโดยใช้ไฟไนต์เอลิเมนต์ เพื่อสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
ดังนั้นทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางในอนาคต หากเป็นผลิตภัณฑ์เดิมจะพัฒนา รูปแบบ สมบัติ และสมรรถนะการใช้งาน เช่น ยางล้อ เน้นการประหยัดพลังงาน ยางล้อเสียงต่ำ ยางล้อไร้ลม หรือ ถุงยางอนามัยที่มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น การผลิตถุงยางอนามัยบางลง เป็นต้น สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางเพื่อรองรับความต้องการของโลกยุคใหม่ เช่น ยางล้อรถยนต์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยางเพื่อผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์ยางใช้ในอุปกรณ์การแพทย์ ยางแฟชั่น/ยางเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
รายละเอียดของเนื้อหาสัมมนาสามารถติดตามได้ที่ http://rubber.oie.go.th
|